เชิญรับชมภาพยนตร์ในงานเทศกาลภาพยนตร์เงียบครั้งที่ 2
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากเทศกาลภาพยนตร์เงียบครั้งที่ 1 เมื่อปีที่แล้ว หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) และบริติช เคานซิล (ประเทศไทย) เตรียมต่อยอดความสำเร็จด้วยการจัดเทศกาลภาพยนตร์เงียบครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 10 - 17 มิถุนายน ศกนี้ โดยในวันที่ 10-16 มิถุนายน จะฉายที่โรงภาพยนตร์ลิโด ส่วนในวันที่ 17 มิถุนายน ซึ่งเป็นรอบปิดเทศกาลฯ จะจัดฉายที่โรงภาพยนตร์สกาล่า เช่นเคย
ปีนี้ ทางเทศกาลฯ ได้คัดเลือกภาพยนตร์เงียบ 10 เรื่อง จากหลากหลายประเทศ หลากหลายเนื้อหา เพื่อจัดแสดงให้แฟนภาพยนตร์ในเมืองไทยได้รับประสบการณ์การชมภาพยนตร์เงียบคลาสสิกประกอบดนตรีประกอบสดจากนักเปียโนมืออาชีพระดับโลก ได้แก่ Stephen Horne จากอังกฤษ และ Mauro Colombis จากออสเตรเลีย รวมทั้ง เทศกาลฯ ยังได้เชิญ ดร.อโนทัย นิติพน นักดนตรีมืออาชีพชาวไทย มาร่วมบรรเลงประกอบหนังเงียบในปีนี้ด้วย
ภาพยนตร์ที่จะฉายในปีนี้ ได้แก่ The Cabinet of Dr.Caligari (1920) หนังเงียบชื่อดังจากเยอรมนี ที่เป็นต้นแบบของหนังแนว German Expressionism ที่จะเป็นภาพยนตร์เปิดเทศกาลฯ ในปีนี้ Sherlock Holmes (1916) หนังเงียบเรื่องแรก ๆ ที่ดัดแปลงมาจากนิยายชุดสืบสวนสอบสวนชื่อดัง หนังเรื่องนี้เพิ่งมีการค้นพบฟิล์มและบูรณะเสร็จเมื่อปีกลายนี้ Blackmail (1929) อีกหนึ่งผลงานหนังเงียบของผู้กำกับเลื่องชื่อ Alfred Hitchcock ที่คงไว้ซึ่งอารมณ์ลึกลับ The Man with a Movie Camera (1929) หนังรัสเซียที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงในแง่การใช้เทคนิคด้านภาพยนตร์ในการนำเสนอภาพอันแปลกตา Steamboat Bill Jr. (1928) หนังเงียบผลงานการแสดงของ Buster Keaton “ไอ้หน้าตาย” ที่จะพาเราไปล่องเรือไปพบกับความโปกฮาตามแบบฉบับของเขา Once Upon a Time (1922) หนังเงียบจากเดนมาร์ก ผลงานของผู้กำกับชื่อดัง Carl Theodor Dreyer ที่สร้างจากนิทานของ Hans Christian Andersen ผสมผสานกับบทประพันธ์ของ William Shakespeare Piccadilly (1929) ผลงานการแสดงของ Anna May Wong นักแสดงเชื้อสายเอเชียที่โด่งดังในยุคหนังเงียบ ที่มารับบทนักเต้นที่โดดเด่นประจำคลับ The Half-Breed (1916) และ The Good Bad Man (1916) หนังคาวบอยยุคหนังเงียบสุดสนุก ผลงานการแสดงของนักแสดงชื่อดังอย่าง Douglas Fairbanks
ส่วนภาพยนตร์ปิดเทศกาลฯ ในปีนี้ คือ The Epic of Everest (1924) หนังสารคดีที่จะพาผู้ชมไปพบกับความระทึกขวัญของการปีนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก โดยรายได้ทั้งหมดในรอบปิดเทศกาลครั้งนี้ ทางหอภาพยนตร์จะนำไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือเหยื่อภัยพิบัติที่ประเทศเนปาล
สำหรับบัตรเข้าชมภาพยนตร์ ในรอบที่ฉายที่ลิโด ในวันที่ 10-16 มิ.ย. บัตรราคา 120 บาท ทุกที่นั่ง ส่วนรอบปิดเทศกาล ในวันที่ 17 มิ.ย. บัตรราคา 200 บาท ทุกที่นั่ง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.fapot.org หรือ https://www.facebook.com/silentfilmthailand หรือ โทร 02-482-2013 ต่อ 111