เทคนิคพูดภาษาอังกฤษให้ชัดถ้อยชัดคำ เพื่อให้สอบไอเอล (IELTS) ได้คะแนนดี

คนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก การออกเสียงให้ถูกต้อง ชัดถ้อยชัดคำ ถือเป็นเรื่องยากพอสมควร เช่น จะ sheep หรือ ship, Fan หรือ van, Dessert หรือ desert, Sixty หรือ sixteen ต้องยอมรับว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษให้นำไปใช้ได้จริง เพราะจะต้องรู้ว่าควรเน้นคำ เน้นประโยค ตรงไหน หรือการออกเสียงจะต้องเป็นลักษณะสั้นหรือยาว ทำให้การออกเสียงถูกต้องและชัดเจนแบบเจ้าของภาษา ต้องใช้เวลาในการเรียนนานพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการสอบไอเอล เนื่องจากการออกเสียงถูกต้องมีผลต่อคะแนนสอบ Speaking ถึง 25%

การเรียนคอร์ส อย่าง Secondary IELTS จากบริติช เคานซิล ช่วยให้น้อง ๆ ในเรื่องการพูดได้มาก เพราะมีบทเรียนที่เน้นเพิ่มคะแนน Speaking ด้วยการเพิ่มคำศัพท์และความเข้าใจในหัวข้อต่าง ๆ เพื่อใช้ในการสอบจริง ทั้งฝึกฝนทักษะในการฟัง พูด อ่าน เขียนอย่างถูกต้องและแม่นยำ และสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษให้ชัดเจนและถูกต้อง บริติช เคานซิล มี 5 เทคนิคในการฝึกฝนมาฝากกัน

1. ฝึกพูดเยอะ ๆ

น้อง ๆ ที่ใช้เวลาเตรียมสอบไอเอลแต่ในห้องสมุด หน้าจอแลปท็อป หรือหนังสือไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ ให้หยุดพักบ้าง เพราะถ้าน้อง ๆ มีจุดประสงค์ในการพัฒนาการออกเสียงภาษาอังกฤษให้นำไปใช้ได้จริง การให้เวลาในการฝึกพูดสำคัญมาก โดยถ้าเรียนเกี่ยวกับไวยกรณ์ก็ให้พูดเกี่ยวกับไวยกรณ์ที่เรียน หรืออ่านหนังสือพิมพ์นำข่าวที่น่าสนใจ มาอภิปรายกันเป็นภาษาอังกฤษ หรือเมื่อเจอเจ้าของภาษาให้พยายามพูดคุยด้วย การหาโอกาสพูดภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุด เป็นการฝึกฝนการพูด และการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด

2. ทำความเข้าใจและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาการออกเสียงที่ผิดพลาด

ในแต่ละภาษามีการออกเสียงที่แตกต่างกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งบางครั้งก็ทำให้มีปัญหากับการออกเสียงภาษาอังกฤษได้ เช่น คนญี่ปุ่นจะออกเสียง ‘L’ และ ‘R’ เหมือนกัน ทำให้มีปัญหาในการออกเสียงเช่น ‘Lice’ และ ‘Rice’ ให้ชัดเจน หรือในภาษาอาราบิกก็จะมีปัญหากับเสียง ‘B’ และ ‘P’ ทำให้เวลาพูดคำว่า ‘Pat’ และ ‘Bat’ ไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าตัวเองมีปัญหากับการออกเสียงคำไหน ให้ทำความเข้าใจและพยายามแก้ปัญหา

3. ฝึกฝนผ่านการร้องคาราโอเกะ

การร้องคาราโอเกะเป็นกิจกรรมที่น้อง ๆ หลายคนชื่นชอบ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะร้องกันเป็นภาษาไทย ให้เปลี่ยนมาร้องเพลงภาษาอังกฤษแทน ซึ่งจะได้ทั้งความผ่อนคลาย และได้ฝึกเรียนอังกฤษเน้นปฏิบัติจริงในคราวเดียวกัน อีกทั้งการร้องเพลงยังเป็นวิธีฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ดี เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการร้องเพลง และกล้ามเนื้อที่ใช้ในการพูดคือส่วนเดียวกัน นอกจากนั้นการร้องคาราโอเกะยังได้พัฒนาไวยกรณ์ คำศัพท์ และทักษะการฟังอีกด้วย

4. ฝึกซ้ำ ๆ บ่อย ๆ

น้อง ๆ จะต้องฝึกพูดให้เยอะและบ่อย ๆ เพื่อให้สามารถพูดและควบคุมการใช้เสียงได้ดีขึ้น ในการฝึกฝนแบบเรียนอังกฤษเน้นปฏิบัติจริง แนะนำให้หาหนังสือการออกเสียงภาษาอังกฤษที่มีไฟล์เสียง เพื่อให้สามารถฟังได้ทุกที่ทุกเวลา จากนั้นหาห้องที่เป็นส่วนตัว ฟังแล้วฝึกพูดซ้ำ ๆ เท่าที่ต้องการ โดยน้อง ๆ อาจจะเรียกวิธีการนี้ว่า ‘Pronunciation Workout’ ก็ได้

5. เรียนรู้เกี่ยวกับสรีระศาสตร์ที่เกี่ยวกับการพูด

ให้จินตนาการว่าในการพูดจะต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนไหนเป็นพิเศษ หรือทุก ๆ ครั้งในการออกเสียงน้อง ๆ จะต้องแสดงท่าทางอย่างไร เช่น ในการทำเสียง ‘S’ ลิ้นจะต้องอยู่หลังฟันด้านบน ขณะที่พ่นลมออกมาจากกระหว่างฟัน การใช้กล้ามเนื้อ และท่าทางในการออกเสียงที่ถูกต้อง มีผลต่อการออกเสียงภาษาอังกฤษที่ชัดเจน ฉะนั้นในการฝึกน้อง ๆ ควรรู้ว่าจะต้องทำท่าทางอย่างไร แนะนำให้ดูภาพยนตร์ที่นักแสดงใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อให้เห็นกิริยาท่าทางเมื่อต้องออกเสียงในคำ และประโยคต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น

เทคนิคเหล่านี้น้อง ๆ สามารถนำปรับใช้กับการฝึกพูดของตัวเองได้ เมื่อการออกเสียงภาษาอังกฤษของน้อง ๆ พัฒนา ก็หมายความว่าการสอบไอเอลในพาร์ทการพูด จะได้คะแนนดีขึ้นตามไปด้วย Secondary IELTS จาก บริติช เคานซิล ให้ความสำคัญกับการพูดภาษาอังกฤษเพื่อผลสัมฤทธิ์ในการสอบไอเอลสำหรับน้อง ๆ มัธยม อายุ 15-17 ปี จึงมีบทเรียนที่ช่วยพัฒนาและฝึกฝนทักษะการพูด ร่วมกับการฟัง การอ่าน การเขียน อย่างถูกต้องและแม่นยำ